ภูมิภาค
เจ้าพระยา คงการระบายน้ำ 2,200 ลบ.ม./วิ เป็นวันที่ 5 ชาวท้ายเขื่อนระทม น้ำท่วมนานนับเดือน เริ่มเน่าเหม็นแมลงชุม กรมชลเตือนซ้ำ 4 จว.จับตาระดับน้ำใกล้ชิด ฝนจ่อถล่มซ้ำ 22-27 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 22 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตัวเลขล่าสุดบ้านเรือนของประชาชน ที่ถูกน้ำท่วมของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีทั้งหมด 3 ตำบลคือ ต.ตลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก รวมบ้านเรือนถูกน้ำท่วมจำนวนกว่า 200 หลังคาเรือน โดยที่ หมู่ที่ 1 ต.ตะหลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับน้ำที่เอเข้าท่วมพื้นที่ 15-100 ซม. ในจุดที่อยู่นอกคันกั้นน้ำถูกน้ำท่วมมาแล้วนานนับเดือน ทำให้เริ่มเจอกับปัญหาน้ำเน่าเสียเปลี่ยนเป็นสีเขียวขุ่นและสีดำส่งกลิ่นเหม็น และยุงแมลงเริ่มมากขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน

ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า เมื่อวาน (21 ก.ย.) ระดับน้ำลดลงประมาณ 10 ซม.ทำให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อฟังข่าวว่าจะมีพายุเข้าช่วงปลายเดือนก็ยิ่งกลับทำให้เครียดมากขึ้น เพราะกังวลใจว่าพายุจะทำให้ฝนตกหลักและเติมน้ำเหนือให้ไหลทะลักลงมาที่เขื่อนเจ้าพระยา ที่อาจจะต้องเพิ่มการระบาย ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อน อย่าง ต.ตะหลุก ซึ่งเป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบ มีน้ำท่วมสูงขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งจะยิ่งทวีความเดือดร้อนขึ้นไปอีก
ด้านสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดพบว่าน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มกลับมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 2,316 ลบ.ม./วิ ระดับน้ำเหนือเขื่อนล่าสุดวัดได้ 15.64 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) โดยเขื่อนเจ้าพระยาได้คงอัตราการระบายน้ำไว้ที่เกณฑ์ 2,200 ลบ.ม./วิ เป็นวันที่ 5 เพื่อให้สอดรับกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รองรับรับมวลน้ำจากทางตอนบนของประเทศจากฝนตกหนัก 22-27 ก.ย. และลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนที่กำลังถูกน้ำท่วมสูง โดยระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวในรอบ 1 สัปดาห์วัดได้ 15.23 ม.รทก. จากปัจจัยเสริมน้ำทะเลหนุนสูงที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา

ADVERTISMENT
และจากที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบายไว้ที่อัตรา 2,200 ลบ.ม./วิ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท หรือ ปภ. เปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบันมีพื้นที่น้ำท่วมของ จ.ชัยนาท ทั้งสิ้น 4 อำเภอตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาคือเหนือเขื่อนใน อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.เมืองชัยนาท ส่วนท้ายเขื่อน 1 อำเภอ คือ อ.สรรพยา รวม 16 ตำบล 55 หมู่บ้าน รวม 399 ครัวเรือน ผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 1,024 คน โดยทางจังหวัดจะได้เร่งให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการโดยเร็วที่สุด
กรมชลประทานยังย้ำเตือน 4 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ประกอบด้วย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำใน คลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งริมตลิ่งแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

โดยในวันนี้ (จันทร์ที่ 22 ก.ย.) สทนช.จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ รวมทั้งเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อให้สอดรับกับปริมาณน้ำที่เปลี่ยนแปลง จากอิทธิพลของพายุและร่องมรสุมที่กำลังส่งอิทธิลทำให้ฝนตกหนักในภาคเหนือ อิสาน และภาคกลางในสัปดาห์นี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- วัดใจ รบ.อนุทิน สานต่อ‘แลนด์บริดจ์’ เมกะโปรเจ็กต์รากฐานเศรษฐกิจไทย
- น้ำท่วมอยุธยายังวิกฤต เตือนท้ายเขื่อนพระราม6 รับมวลน้ำป่าสักไหลรวมแม่น้ำเจ้าพระยา
- พณ. เปิดพฤติกรรมคนไทยเลือกซื้อสินค้า ใช้เงินกิน-ดื่มเกือบครึ่ง